
Uncategorized
คำรณ หว่างหวังศรี เจ้าของวลี นะจะบอกให้
ถ้ากล่าวถึงนักข่าวขวัญใจชาวบ้าน หลายท่านคงจะคุ้นชื่อของ “คำรณ หว่างหวังศรี” เจ้าของประโยคสุดฮิต “นะจะบอกให้” ที่ยุคหนึ่งโด่งดังมากกับบทบาททางช่อง 7

แต่วันหนึ่งชีวิตกลับต้องพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ คำรณ เปิดใจกับ รายการแฉ โดยเล่าถึงจุดเริ่มต้นการเป็นนักข่าวชาวบ้าน

เนื่องจากว่าซึมซับกับอาชีพเกษตรกรจากทางบ้าน แต่ก็เล็งเห็นว่าเป็นอาชีพที่ยากลำบาก จึงตั้งใจเรียนหนังสือ เมื่อมาเห็นเรื่องราวแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดต่างๆ

ก็เกิดความสนใจ ตอนเรียนนั้นก็สอบติดในสายงานหนังสือพิมพ์ จนก้าวขึ้นมาสู่หน้าจอทีวี ที่ผ่านมาไม่เคยคิดว่าจะมีชื่อเสียง นอกจากเป็นนักข่าวแล้วยังเคยออกเทปมาแล้ว 3 ชุด อีกด้วย

คำรณ เปิดใจว่า ช่วงที่การงานรุ่งเรือง มีรายได้จำนวนมาก ถึงขนาดวันหนึ่งอยากได้บ้าน นั่งรถผ่านแถวรังสิตเนี่ย ก็สามารถชี้เลยว่าอยากได้หลังนี้

ช่วงนั้นซื้อไว้บ้านไว้เต็มเลย ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว รถ โดยเล่าว่าตอนนั้นเป็นยุคเฟื่องฟูของชาติชาย ตอนนั้นถึงขั้นมีรูปตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์บ้าน

ตอนนี้ไม่เหลือเลย ขายไปหมดเลย ตอนนี้เช่าอยู่ โดยเหตุผลที่หมดตัวว่าเพราะเศรษฐกิจผันแปร และจากยุคอนาล็อคมาดิจิติล ทำให้ขายไม่ได้

คำรณ เล่าว่า จริงๆตนอยากอยู่ช่อง 7 จนตาย แต่ยุคที่มีการเอาคนออก เขาก็ให้เราออก เราก็ไปที่ใหม่ ให้ค่าแรงมากกว่า 40 เท่าจากที่เดิม

ตอนนั้นสุขสบายเลย พอดิจิตอลมา ไม่มีใครแบกใครได้แล้ว ต้องหางานกันเอาเอง ทำทีวีจนจะหมดตัว แต่ก็พร้อมจะปรับตัวให้เข้ายุคสมัย

เชื่อหลายๆคนคงจะคุ้นกับวลีคำกล่าวที่ว่า “นะจะบอกให้” ซึ่งคงไม่มีใครไม่รู้จัก “คำรณ หว่างหวังศรี” อดีตนักข่าวและพิธีกรชื่อดัง ช่อง 7 สี

ที่เคยมีชื่อเสียงเป็นนักข่าวภาคสนามและคอยทำหน้าที่รายงานข่าวเกี่ยวกับข่าวสะท้อนชีวิตวิถีชีวิตชาวบ้าน โดย คุณคำรณ ได้เปิดใจถึงชีวิตปัจจุบันว่า

จากเมื่อหลาย 10 ปีก่อนที่เคยโด่งดังและมีชีวิตที่ดีมาก มีเงินทองใช้จ่ายไม่ขาดมือบ้านซื้อรถได้ตามปรารถนาตนเคยซื้อบ้านไว้ 3-4 หลัง ทั้งทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว

แต่ชีวิตปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นต้องเช่าบ้านอยู่ ส่วนเงินนั้นใช้เงินสำรองและเป็นเงินก้อนสุดท้ายแล้วเพราะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป

คิดว่าการที่เรามีเงินเดือนอะไรๆก็ดูสบายไปซะทุกอย่างพอยุคเปลี่ยนไป จากอะนาล็อกเป็นดิจิตอลเราก็ต้องมาขายแต่ว่าโฆษณาเงินมันก็เลยเปลี่ยนไปไป

อีกแต่ว่าทุกวันนี้บริษัทก็ยังคงทำอยู่ครับส่วนรายการก็ยังคงทำป้อนช่อง 3 ส่วนสาเหตุที่ลาออกจากช่อง 7 นั้น เป็นเพราะเป็นยุคสมัยมันเปลี่ยนและก็เปลี่ยนผู้บริหารคนเก่าออก

คนใหม่เข้ามาแทนผู้บริการหารคนเก่า ก็อาจจะพอใจเราบ้างแต่พอผู้บริหารคนใหม่มา เค้าอาจจะมองเราว่าเราโบราณดูเก่าไป เราก็ต้องออกไปหาที่ใหม่
