เมื่อก่อนใครที่ชอบดูละครจักร ๆ วงศ์ ๆ ช่วงเช้าเสาร์-อาทิตย์ น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นอย่างดี สำหรับ ติ๊ก ฉัตรมงคล บำเพ็ญ อดีตพระเอกและนักแสดงชื่อดัง

ที่ฝากผลงานละครดังไว้มากมาย เช่น ปลายฝนต้นหนาว, ดาวพระศุกร์, ไกรทอง, เกราะเพชรเจ็ดสี, ลูกที่ถูกลืม, ดาบเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง เป็นต้น ปัจจุบันเขาอายุ 51 ปีแล้ว ยังคงความหล่อไว้เหมือนกับตอนเป็นนักแสดงละครพื้นบ้านในยุคอดีต

มีชื่อเสียงโด่งดังจากการเล่นละครทางสังกัดช่องมากสี โดยรับบทเป็น ‘พี่ไม้’ ในละคร ‘เรื่องดอกแก้ว’ และได้ร่วมแสดงกับนางเอกสาว ‘กบ สุวนันท์ คงยิ่ง’ อีกด้วย แต่ก่อนหน้านี้ชีวิต

พลิกผันด้วยความคึกคะนองเมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น ทำให้ ‘ติ๊ก ฉัตรมงคล’ ห่างหายจากการแสดงไปนานถึง 2 ปี จนต้องไปทำงานอยู่ที่เมืองนอกแทน โดยก่อนหน้านี้ ‘ติ๊ก ฉัตรมงคล’ ก็เคย

ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเส้นทางชีวิตที่ผ่านมาไว้ว่า “ก่อนหน้านี้ พื้นเพครอบครัวผมไม่ค่อยจะมีฐานะอยู่แล้ว และโตมากับการต้องดิ้นรน สมัยเข้าวงการใหม่ๆ ตอนนั้นอายุแค่ 20 ปลายๆ วิถีชีวิต

มันมีขึ้นมีลงมันเป็นเรื่องปกติของคนเรานะ ผมเป็นคนที่เข้าใจสัจธรรมชีวิต ในวันที่เราไม่ได้มีชื่อเสียงหรือมีคนห้อมล้อมเหมือนเดิม เหมือนที่มีคนเคยพูดไว้ว่าชีวิตต้องเดินไปข้างหน้าทุกวัน มีน้อยก็ใช้น้อย

อย่างอาชีพดารา ปีนี้เราอาจจะประสบความสำเร็จ แต่ปีหน้าเราอาจเจ๊งก็ได้ อย่างพระเอกบางคนก็ไม่ได้เป็นพระเอกตลอด ผมก็เข้าใจสัจธรรมตรงนี้ “ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปี ตอนนั้น

เรากำลังไปได้สวย ผู้ใหญ่ก็สนับสนุน ก็เลยเกิดเหตุการณ์นั้น เรารู้ชะตาตัวเองแล้วล่ะว่าจะเป็นยังไง ก็เข้าไปขอโทษผู้ใหญ่ หลังจากนั้น ก็ต้องหาอะไรทำนอกเพื่อเลี้ยงตัวเอง ผมเคยไปเปิดท้าย

อยู่ที่ตลาดนัดเมืองทอง เป็นงานที่ผมได้ลองทำดู ตอนนั้นก็จำหน่ายเครื่องประดับ พวกสร้อยเลทที่เป็นทองเหลืองและรองเท้าสานของผู้หญิง แต่ตอนนั้นก็ไม่ค่อยรุ่งก็เลยไม่ได้ทำต่อ ตอนนั้น

ผมไม่เคยอายที่จะทำงานตรงนั้นเลย ผมอยากทำให้เขาเห็นด้วยว่าเราขยันไม่เกี่ยงงาน เรามีความสามารถทำได้หลายๆ อย่าง สายตาคนอื่นกำหนดชีวิตผมไม่ได้ คนเราต้องกินต้องใช้ถ้าจะมัว แต่กลัว

ว่าคนอื่นจะมองเรายังไงชีวิตมันก็ไม่ก้าวไปไหนสักที ส่วนช่วงที่หายไป หลังจากลาผู้ใหญ่แล้วผมก็บินเดี่ยวไปอยู่อเมริกาเลย ไปหางานทำนี่นู่น ไปเสิร์ฟอาหาร ไปเรียนรู้ภาษา ไปหาประสบการณ์

ดีกว่ามาจมอยู่กับอดีต ผมว่าบางทีชีวิตมันก็ลิขิตไม่ได้และไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวังไว้หรอก ตอนนั้นก็มองคนรอบข้างด้วยทำไมเขายังอยู่ได้แล้วทำไมเราจะอยู่ไม่ได้” เคยไปทำงานเบื้องหลัง

แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ “ช่วงที่หายไปผมไปทำโปรดักชั่นเฮาส์กับเพื่อน แต่มันไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ ช่วงก่อนที่มีข่าวว่าจะมีทีวีดิจิตอลเราพยายามจะเซ็ตทีมเพื่อผลิตรายการหรือ

ไม่ก็ทำละครซีรี่ส์เล็กๆ ที่คิดไว้ว่าอยากทำก็คือซีรี่ส์แนวธรรมะ ก็อยากเอาไอเดียนั้นไปเสนอช่องทีวีดิจิตอลลองดูครับ ตอนนี้ก็เริ่มคุยกับเพื่อนๆ แล้วแต่ยังไม่ได้เสนอกับช่องไหน” ได้กลับมาเล่นละคร