Connect with us

Uncategorized

ณัฐนี สิทธิสมาน วัย 74

Advertisement

หากจะพูดถึงหนังแนวน่ากลัวปนตลกของไทยแล้ว หลายคนคงสามารถจดจำฉากอันเป็นเอกลักษณ์หนังไทยอย่าง วิ่งหนีลงโอ่งได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหนังที่ตราตรึงใจใครหลายคน



กับผู้รับบทในตำนานอย่าง ‘หน่อย ณัฐนี สิทธิสมาน’ ล่าสุด นักแสดงรุ่นใหญ่ ‘หน่อย ณัฐนี สิทธิสมาน’ ได้ออกมาเปิดใจเล่าถึงตำนานของภาพยนตร์เรื่องนี้



ในหน้าที่ของ ‘ทองหยิบ’ พร้อมทั้งยังได้เปิดเผยที่มาของท่าปอบหยิบ และการลงโอ่ง ที่ต้องอยู่ในทุกๆภาค จนเปลี่ยนเป็นฉากอันโด่งดัง

Advertisement



เจ้าตัวเปิดใจว่า บางคนเห็นหน้าก็กลัวสะดุ้งก็มี ไม่สะดุ้งบ้างก็มี เพราะบางคนก็ไม่ได้กลัว คนจะจำในภาพของท่าปอบหยิบตลอดเวลา



อีกทั้งผลงาน เรียกได้ว่าคุณหน่อยเล่นมามากถึง 14-15 ภาคเลยทีเดียว เวลาที่ภาพยนตร์ได้ไปฉายตามต่างจังหวัด ก็ได้ยินว่าทุกคนกลัว



แต่ก็มาดูด้วยเหตุว่าเป็นหนังที่ดังมาก ไม่เคยมีภาพยนตร์ไทยที่ทำได้หลายภาคขนาดนี้มาก่อน ส่วนตัวรู้สึกภูมิใจมาก แต่ว่าเสียใจอย่างเดียว สวยขนาดนี้ให้เล่นเป็นปอบ

Advertisement



ภาคที่ 1 ตัวเองไม่ได้เป็นคนเล่น เพราะคิวละครไม่ได้ แต่ได้มาเล่นในภาคที่สอง คงเพราะจังหวะและผลตอบรับมันดี หนังเลยได้ทำต่อมาเรื่อยๆ



สำหรับท่าหยิบในเรื่องนั้น ‘คุณหน่อย’ อธิบายว่า จริงๆแล้วปอบก็เป็นคน แต่พฤติกรรมไม่เหมือนกัน ท่าทางของปอบนั้น ‘คุณสายยนต์’ ผู้กำกับ



อยากได้ท่าที่คนดูรู้ว่ากำลังจะกินไส้ ตัวของ ‘คุณหน่อย’ ชื่อ ‘ทองหยิบ’ เลยลองทำท่าทางหยิบให้เขาดู ทางผู้กำกับโอเคเลยได้ท่านี้

Advertisement



“แต่จริงๆแล้วก่อนจะมาเล่นเรื่องนี้ เราดูแลเสื้อผ้า หน้าผม ได้เข้ามาทำงานกับเสด็จพระองค์ชายใหญ่ ‘หม่อมปริม’ เข้ามาคือเราไม่มีความรู้อะไรเลย ท่านให้โอกาส



และสอนเราทุกอย่าง เราก็ทำทุกอย่างเลยค่ะ เรื่องแรกน่าจะเป็นน้ำผึ้งขม เรื่องนี้น่าจะประมาณปี 17 แล้วเรื่องสุดท้ายคือเงาะป่า เพราะเจ้านายสิ้นบริษัทก็เลยเลิก เราก็เลยมาเล่นละคร



โอกาสของเราเยอะมากกว่าคนอื่นเลย จริงๆแบบนี้ค่ะ ตัวแสดงมีน้อย คนก็ยังไม่อยากเป็นนักแสดงมาก ก็คิดว่าทำไมเราไม่เปิดโรงเรียน

Advertisement



เพื่อจะให้คนทุกวัยได้มาเรียน ก็ได้มีโรงเรียนเปิดขึ้นโดยมี ‘คุณจิ๊ อัจฉราพรรณ’ เป็นครูใหญ่ สอนทุกอย่างเลย สอนละครวิทยุ สอนการแสดง



สอนแต่งหน้า สอนรำไทย สอนหมดทุกอย่างที่เกี่ยวกับการแสดง ส่วนเราก็มีหน้าที่ในการเก็บเงิน ช่วงที่เรารอหรือช่วงที่นักเรียนไม่ไปเรียน



เราก็ขอว่าขอเรียนด้วยคนได้ไหม สุดท้ายเราก็ได้เรียนรู้วิชาการแสดงมา ตอนนี้แสดงมาทั้งละครทั้งหนัง น่าจะประมาณ 200 เรื่องได้ค่ะ”

Advertisement
Advertisement

error: Content is protected !!