เบิ้ล ปทุมราช ได้ให้สัมภาษณ์ถึงหวานใจ ‘แครี่’ ลูกครึ่งสาวชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่เพิ่งจะบินกลับประเทศของตนเอง ต้องห่างกันไกลแต่ยังคิดถึงตลอด

เบิ้ล ปทุมราช เรียกว่าเป็นหนุ่มไอดอลนักร้องลูกทุ่งหมอลำมากความสามารถและเขาไม่ใช่ที่มีความโดดเด่นด้วยลุคและเสียงร้องเพียงอย่างเดียว

แต่ชีวิตเขายังประสบความสำเร็จเป็นซุปตาร์ 1000 ล้านวิว ตั้งแต่ช่วงอายุยังน้อยอีกด้วย เราก็จะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับ ประวัติ เบิ้ล ปทุมราช

อดีตเด็กล้างเครื่องจักรยานยนต์ และส่งอะไหล่รถ สู่ซุปตาร์ลูกทุ่งหมอลำที่ประสบความสำเร็จ จากรั้วมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิตคนนี้ให้มากขึ้นซักหน่อย

เบิ้ล ปทุมราช เกิดและเติบโตที่บ้านโคกพระ ตำบลนาป่าแซง อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อตอนอายุ 17 ปี

มาทำงานที่ราชบุรี ล้างเครื่องจักรยานยนต์ และส่งอะไหล่รถ จุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการของหนุ่มเบิ้ล ปทุมราช

คือการที่เขาส่งคลิปเพื่อเข้าร่วมประกวดในโครงการ 20 ปี แกรมมี่ โกลด์เมื่อช่วงต้นปี 2558 โดยคลิปของเขาติด 1 ใน 75 คลิป

ที่ ได้รับการคัดเลือกจากผู้ส่งเข้าประกวดทั้งหมด 107 คลิป หลังจากนั้นเขาก็ได้รับทาบทามเข้าสังกัด “อาร์สยาม” ในเครืออาร์เอส และมีผลงานเพลงฮิตออกมามากมาย

โดยเขาเคยเผยว่าจุดหมายของการมาเป็นนักร้องนั่นก็คือ อยากมีชื่อเสียง อยากมีงาน มีเงินดูแลครอบครัว มีฐานะที่ดีขึ้น มีเงินใช้แบบไม่ลำบาก

พ่อแม่ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนแต่ก่อน อยากสร้างครอบครัวให้ดีขึ้น โดยเขาใช้ทั้งพรสวรรค์กับพรแสวงในการคว้าฝันในครั้งนี้

และทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จจนกลายเป็นนักร้อยระดับหลักพันล้านวิวนั่นเอง “ผมมาจากการแต่งเพลงลงโซเชียลแล้วมีคนติดตาม สมัยนั้นจะมีเพจ Youlike

ที่เค้ามาแชร์เพลงของเราไปที่เพจเค้าแล้วให้เครดิต เลยกลายเป็นว่ามีคนมาตามเราที่เฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้นจาก 2-300 คน เป็นหลักพัน

“ความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ บางคนต้องมีร้อยล้านพันล้าน ต้องดังต้องดีต้องเด่น

แต่สำหรับผมคือการที่เราแค่ก้าวออกจากบ้านมาเป็นนักร้องได้ ดูแลพ่อแม่ได้ก็สำเร็จแล้ว มันไม่ต้องรออะไรที่สำเร็จไปมากกว่านี้

แต่จะไม่หยุดพัฒนาดีกว่า สำเร็จแต่ไม่หยุดพัฒนา ผมอยากอยู่โดยที่ไม่ต้องร่ำรวยอะไรมาก แต่อยากอยู่อย่างมั่นคง

คำว่ามั่นคงไม่ได้หมายถึงว่ารากฐานต้องแน่น มีบ้านมีรถอะไรเยอะๆ ไม่ใช่ครับ มั่นคงของผมคือหนึ่ง เราไม่เหนื่อย

เราไม่ต้องยื่นมือออกไปให้ปวดแขน เราแค่วางมืออยู่กับตัวแล้วพอดี ใช้ชีวิตไม่เหนื่อยมาก ก็ได้เห็นแล้ว ก็ได้ทำแล้ว

ไม่ใช่ไปแล้วคิดเสียดายว่า ซ่อนเงินไว้ตรงนั้นตรงนี้ นั่นไม่ใช่ความมั่นคง มันคือความโหยหา ทะเยอทะยานไม่มีที่สิ้นสุด”