
Uncategorized
บ้าน สิงโต เดอะสตาร์ สร้างให้แม่
นักร้องนักแสดงหนุ่มดีกรีนักบิน สิงโต สหรัฐต์ หิรัญญ์ธนภูวดล หรือ สิงโต เดอะสตาร์ หลังจากประกวดเจ้าตัวหายหน้าจากวงการไปพักใหญ่ เพื่อทำการสอบเป็นนักบิน และตอนนี้ก็

ทำสำเร็จแล้ว ซึ่งจ้าตัวได้สร้างบ้านหลังใหม่ให้กับแม่ โดยเป็นบ้านที่ทำด้วยตัวเองทั้งหมด ยกเว้นการก่อสร้าง ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์รูปภาพพร้อมแคปชั่นว่า ต้องสร้างจากความรัก for new

home เป็นบ้านหลังใหม่ที่ทำทุกอย่างด้วยตัวเองคนเดียวจริงๆครับ ตั้งแต่หาที่ดินเอง ซื้อที่ดินเอง(แพงมาก) ออกแบบบ้าน คุมช่างก่อสร้างบ้าน แก้ปัญหาต่างๆมาเลือกวัสดุสร้างบ้านเอง

และจ่ายตังค์เอง อันสุดท้ายโหดที่สุด จะพยายามสร้างให้เสร็จก่อนงานวันเกิดแม่เพื่อเป็นของขวัญให้แม่ให้ได้ครับ เอาใจช่วยสิงโตด้วยนะครับ สร้างบ้านเองในกรุงเทพยากกว่าที่คิด สู้ๆ

สุขที่ได้สร้าง และก่อนหน้านี้ด้านสิงโต กว่าจะประสบความสำเร็จอย่างเช่นทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย สิงโต สหรัฐต์ หิรัญญ์ธนภูวดล หรือสิงโต เดอะสตาร์ มาเปิดใจผ่านทางรายการดังต้อง

ทำงานเก็บขยะตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ชีวิตในวัยเด็กเป็นยังไง เล่าให้ฟังหน่อย? สิงโต : ครอบครัวขาดตกบกพร่องครับ คือจะต้องบอกว่าครอบครัวของสิงโตมีปัญหาอยู่ตลอดเวลา คุณพ่อมีภรรยา

หลายคน เกือบจะเป็น 10 ครับ วันที่ผมคลอดเขาก็ไม่ได้มาดู แล้วก็อยู่มาวันหนึ่งคุณพ่อก็ขอแยกทางกับคุณแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่คิดไม่ฝันมาก่อน ระหว่างทางคุณแม่ก็ทราบมาตลอดว่า

คุณพ่อมีผู้หญิงอื่น แต่คุณแม่ก็รับได้เพราะว่าคุณแม่มีบุตร อยู่เพื่อบุตร แล้วก็ยังมีปัญหากันอีก “ผมก็อยากจะบอกว่าบิดามารดาคนไหนหากมีปัญหากัน ไม่สมควรมาทำแบบนี้ให้ลูกเห็นครับ ซึ่งมัน

เป็นอะไรที่ค่อนข้างแย่ครับ” จำภาพวันที่พ่อกับแม่แยกทางกันได้ไหม? สิงโต : “จำได้แม่นเลยครับ ตอนนั้นผมประมาณ 7-8 ขวบ จำได้ว่าเขามาเก็บเสื้อผ้าออกจากบ้าน เก็บด้วยความ

รวดเร็ว เขาไม่ได้หันมามองผมเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ผมนั่งอยู่ตรงนั้นไม่มีคำลาแม้แต่สักหนึ่งคำ ไม่มีการกอด ไม่มีการบอกลาเลยใดๆ” หลังจากนั้นอยู่กันยังไง? สิงโต : “คุณแม่กับ

คุณยายก็จะเป็นคนดูแลเรื่องอาหารการกิน แล้วคุณแม่ก็ออกไปรับจ้างทำงานเป็นแม่บ้าน ได้วันละ 200 บ. สมัยก่อน ส่วนเรื่องของการเรียน ผมส่งตัวเองเรียน ผมทำทุกอย่างตั้งแต่เก็บขวด

จำหน่าย เศษเหล็ก พลาสติก กระดาษ หรืออะไรก็ตามที่ขายได้ผมทำหมด คือคุณยายเขาจะเป็นคนแนะนำผม เขาจะเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างแกร่ง แล้วก็เป็นผู้นำ อดทนครับ “ตอนแรกๆเรา

จะรู้สึกอาย แต่คุณยายบอกว่า ไม่ต้องอายนะ งานนี้มันเป็นงานที่สุจริต แล้วได้ช่วยเหลือให้บ้านเมืองเรามีขยะน้อยลง ได้ตังค์ด้วย เราเลยรู้สึกว่าไม่อายถึงแม้เพื่อนจะดูถูก เราก็ภูมิใจ แล้วเราจะ

ได้เก็บตังค์ตรงนี้เอาไปซื้อหนังสือ ซื้อสมุด ปากกา ดินสอไปเรียน” “ผมค่อนข้างโชคดีที่เรียนโรงเรียนเทศบาล ถ้าเกิดใครสอบได้ที่ 1 ของชั้น จะได้ทุนเรียนฟรี แล้วเราก็จะมุ่งมั่นทุกปี ผมไม่

ได้แค่เรียนอย่างเดียว ผมทำกิจกรรมทุกอย่าง ผมเป็นหัวหน้าห้อง แข่งขันโอลิมปิกวิชาการ ได้รางวัลได้ตังค์ซึ่งเป็นตังค์ก้อน คือทำกิจกรรมทุกอย่างที่จะสามารถผลักดันตัวเองให้เรียนหนังสือได้”
