ชีวิตพังไม่ถึงปี เสนาหอย เผยปมวงแตก แบกหนี้106ล้านกับวิลลี่ ตอบถึงเปิ้ล เมื่อก่อนผมมีพนักงานทั้งหมด 260 คน

เวลาเลี้ยงปีใหม่ปิดแบบทั้งเกาะ จากกำไรต่อเดือนเป็นล้าน เดือนละ 1.8 ล้าน ไม่ถึง 3 เดือน เป็นหนี้สิบล้าน มันไปไหนหมด สุดท้ายปิดบริษัท

บอกวิลลี่ปิดก่อน พอเปิดมาเช็กทั้งหมดสินทรัพย์เราเหลือเท่าไหร่ วิลลี่ บอกข่าวดีหอยเราปิดบริษัทได้

แต่เราสองคนเป็นxนี้อยู่ 106 ล้าน มองหน้าวิลลี่สองคนบอกว่า ถ้าล้มละลายไปแล้วคนที่เราเป็นหนี้หละจะทำยังไง วิลลี่เลยบอกงั้นเราคนละครึ่ง

สรุปสุดท้ายมารับจ้างดีกว่ารวยกว่าเยอะ หาอะไรก็ได้ที่ทำแล้วเรามีความสุข ใช้หนี้ไปเรื่อยๆ ทำยูทูบบ้าง รายการสัตว์บ้าง

การเกษตร รับจ้าง ส่วน วิลลี่ เขาไปต่อยอดทำอาหารหมาบ้าง ทำโน่นทำนี่ ถามว่าอยากรู้วิธีการเคลียร์หนี้ เสนาหอย บอกว่า เราไม่xนี

ทั้งคู่ก็ได้แชร์ความใฝ่ฝันอยากมีชีวิตเรียบง่าย มีบ้านหลังเล็กๆกลางหุบเขา มีลำธารใกล้บ้าน ปลูกผักทำโคกหนองนา ทำสวน ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะได้เห็นเด็กยุคใหม่ที่ฝันอยากใช้ชีวิตสมถะแบบนี้

วิลลี่ แมคอินทอช กับ เสนาหอย คู่เพื่อนซี้ที่คบกันมานาน เคยมาร่วมหัวหกก้นขวิดด้วยกันสมัยยังวัยรุ่น ทำให้เหตุการณ์เก่าๆในอดีตหวนย้อนคืนมาตั้งแต่ตอนที่เพิ่งรู้จักกันใหม่ๆ

เสนาหอย ได้พูดซึ้งๆกับ วิลลี่ ว่า แม้ในอีก 20 ปีข้างหน้า ก็ขอหันขวาไปแล้วเจอกัน ส่วนด้าน วิลลี่ ก็ขอหันขวาเจอครอบครัว

และหันซ้ายเจอเพื่อนรักเช่นกัน ทำให้เห็นถึงมิตรภาพที่มั่นคงยาวนานของทั้งคู่ที่ถึงแม้จะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันบ้าง

แต่ก็ได้อาศัยความไว้ใจเชื่อใจกัน และหาทางออกร่วมกันจึงสามารถเป็นเพื่อนรักกันมาได้จนทุกวันนี้

นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว สองคู่ซี้คนดังอย่าง “เสนาหอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค” และ “วิลลี่ แมคอินทอช” ยังหันไปเอาดีทางด้านการเกษตรด้วย

โดยทั้งคู่ลงทุนทำฟาร์มของตัวเองในชื่อ “วินฟาร์ม” (Wynn Farm) ตั้งใจให้เป็นอีกหนึ่งงานหลัก ปลูกผักจัดสวนอย่างจริงจัง บนเนื้อที่กว้างขวาง ร่มรื่น เขียวชอุ่ม แถมไอเดียและบรรยากาศน่าสนใจมาก

โดย วินฟาร์ม ของเสนาหอยและวิลลี่ ตั้งชื่อตามลูกชายของวิลลี่ มีความหมายสื่อถึงลม โดยที่ดินมีขนาดประมาณ 10 ไร่

เป็นที่ที่แม่ของเสนาหอยซื้อไว้ตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว อยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา เป้าหมายของพวกเขาคือ การทำฟาร์มปลูกผัก โดยเริ่มทำมาเป็นปีแล้ว ลงทุนแบบไม่กู้ ค่อยเป็นค่อยไป