อยู่ในวงการบันเทิงมานานเกือบ 20 ปี สำหรับพระเอกนักบู๊ เอก รังสิโรจน์ ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นผู้กำกับละครให้กับช่อง 7

โดยผลงานละครเรื่องปัจจุบันคือ หุบพญาเสือ ที่กำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้ เอก รังสิโรจน์ ได้เปิดใจเล่าถึงเรื่องราวชีวิตของตนเอง

ว่าชีวิตกว่าจะเดินทางมาถึงปัจจุบันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเมื่อก่อนครอบครัวเป็นครอบครัวที่ทุนน้อยรวมทั้งบ้านอยู่ไกลออกไป การเดินทางไปกลับจากโรงเรียนค่อนข้างจะลำบาก

พ่อกับแม่เลยพามาฝากไว้ที่วัดตั้งแต่อายุ 15 ปีจนกระทั่ง 23 ซึ่ง เอก ทำทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเป็นลูกศิษย์วัดตื่นเช้ามาเดินตามพระบิณฑบาต

พอเพียงเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นเจ้าตัวก็หางานทำเล่นดนตรีเพื่อหารายได้เสริม เล่นดนตรีเสร็จก็กลับมานอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็จะต้องออกเดินตามพระไปบิณฑบาตแต่เช้าชีวิตของเขาไม่เคยละความพยายาม

ในที่สุดได้รับช่องทางสู่บทพระเอกภาพยนตร์ เรื่องแม่นาค ต่อจากนั้นชีวิตก็ได้กลับกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง ถึงขณะนี้จะมีชื่อเสียงมากแค่ไหน

แต่ว่าการใช้ชีวิตเวลานี้ของเจ้าตัวก็ยังคงติดดินไม่หรูหราเลยสิ่งสำคัญเลยก็คือเขาไม่เคยลืมว่าเขาได้ดิบได้ดีเพราะอะไร

“ถ้าหากเราไม่มีคนดูละครเราก็ไม่ดัง หรือถ้าหากเราไม่มีนักข่าวเขียนข่าวเรา เราก็ไม่มีกระแส ผมเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องเอื้อซึ่งกันและกันครับ”

เจ้าตัวยอมรับว่าจากวันนั้นจนกระทั่งวันนี้ตัวเขาก็ยังคงรักที่จะใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายเหมือนเดิม หากว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไป เขาไม่เคยลืมจุดกำเนิดของตัวเอง

“ผมเป็นคนเรียบง่ายนะครับ ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่หวือหวา ชอบไปเดินตลาดขายของมือสอง ขายของเก่า ใช้ชีวิตปกติไปได้ทุกๆที่นะครับ ผมไม่เคยวางตัวเองว่าเป็นดารา คุยได้กับทุกคน ผมมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตอย่างนี้”

“ทุกๆวันนี้ผมพึงพอใจกับงานที่ผมทำอยู่มากมายขอรับ ขอบคุณผู้ใหญ่ที่ยังเอ็นดูผมมาตั้งแต่ผมเข้าวงการใหม่ๆมาจนกระทั่งทุกวันนี้ และก็ให้ความไว้วางใจเรามอบหมายงานให้เราตลอด

สำหรับงานด้านอื่นๆผมคิดว่าให้เป็นเรื่องของอนาคตดีมากกว่าครับ ปัจจุบันนี้ขอทำหน้าที่นักแสดงให้ดีที่สุดก่อน เนื่องจากผมว่าการแสดงมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะแยะก็ค่อยๆเก็บเกี่ยวไปเรื่อยครับ”

“ผมเป็นคนไม่ตั้งความหวังในชีวิตไว้สูงมาก แต่ว่าตั้งใจสำหรับในการทำงานสูงมาก ผมจะมองดูเรื่องงานมาก่อนเรื่องอื่นเสมอ อย่างถ้าหากผมรับละครมาหนึ่งเรื่อง ผมจะถามว่าเล่นกับใคร บทเป็นยังไง มองภาพรวมมาเป็นอันดับหนึ่ง

เพราะว่างานทุกงานที่ผมตัดสินใจรับแล้ว ผมจะทำทุกสิ่งทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุดแล้วก็ตั้งใจมากมาย ไม่ทำอะไรผ่านๆไป เพราะฉะนั้นในกองถ้าเกิดไม่เห็นผมท่องบทก็จะเห็นผมถ่ายภาพ

มีอยู่เท่านั้นเลยครับ ผมไม่เคยทำงานแบบลวกๆ ทำตัวให้เป็นมิตรกับแฟนละคร รวมทั้งเป็นมิตรกับนักข่าวให้ความร่วมมือสำหรับในการตอบคำถาม